เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

เลขจัดส่งวันนี้

--ED 5095 4224 5 TH สังขะ
--ED 5095 4225 4 TH รามอินทรา

 

เหรียญ"หนุมานมหาลาภ"
วัด'ทุ่งสาริกา'สระบุรีรุ่น๑
===============

บรรยากาศบ้านเมืองครุกรุ่นสงครามชายแดนอีสานกับ "กบฏแขก" ทางใต้ ต้องใช้ วัตถุมงคลจำพวก รบเก่ง สู้เก่ง เป็นขวัญกำลังใจ!

ขึ้นชื่อ "หนุมาน" ลูกพระพายใครฆ่าไม่ตาย เป็นต้นแบบแห่งเครื่องรางของขลัง วัตถุมงคลายด้าน รวมทั้งเป็นมหาเสน่ห์และเพียบพร้อมโชคลาภ

เหรียญ "หนุมานเชิญธง" ซึ่งตั้งชื่อเป็นรุ่น "หนุมานมหาลาภ" นี้สร้างโดย "พระสมบุญ มหาวีโร" วัดทุ่งสาริกา สระบุรี เป็นรุ่น๑ ในราวปี 254กว่า

วัด "ทุ่งสาริกา" เป็นวัดเก่าแก่โบราณแต่ครั้งรัตนโกสินทร์ตอนต้น มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพมากมาย เจ้าอาวาสสืบต่อกันมานับสิบรูป ไม่ค่อยสร้างวัตถุมงคล การสร้างรุ่นแรกหนนี้ จึงนับว่ายอดเยี่ยมมาก ไม่แพ้เหรียญหนุมาน "วัดหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์" สระบุรี เหมือนกัน

=======มอบให้ร่วมบุญทีเดียว 2 เหรียญ เหรียญละ 300 บาท รับไปทั้งคู่ จัดให้เพียง 500 ก็พอ=======

เหรียญไข่ใหญ่ เนื้อทองแดงผิวไฟ สวยคมกริบ ไม่เคยผ่านการใช้ รูปแบบเดียวกับ "หนุมานเชิญธง" หลวงปู่หนู วัดทุ่งแหลม ราชบุรี ที่มีราคาแพงมากๆ

หาของแพง "วัดทุ่งแหลม" ไม่ไหว ก็บูชา "วัดทุ่งสาริกา" ทดแทนได้ เข้มขลัง พลัง "ลูกพระพาย" ผู้ไม่เคยพ่ายศึก ไม่ผิดเพี้ยนกัน!!!

คาถาอัญเชิญ พลัง"ลูกพระพาย" ใส่ตัว
--(นะโม 3 จบ)
--กลั้นใจเอาลิ้นดุนเพดานปาก ว่ารวดเดียว จะกี่จบก็ได้
*** หะ นุ มา นะ
*** นุ มา นะ หะ
*** มา นะ หะ นุ
*** นะ หะ นุ มา

จากนั้นอธิษฐานตามใจปรารถนา ตรงตามสถานการณ์เพลานั้น...
--หากอยู่กลางศึกก็ทะยานฟาดฟัน
--หากต้องการหาลาภก็ทำให้คล่องตัว ลาภผลจักคล่องกาย
--ต้องการเป็น "สิเหน่หา" ภาวนาจบเอาน้ำลูบหน้า ลูบหัว แล้วไปเถิด จักบังเกิดเป็นราศี ฉวีผ่อง สาวมอง หนุ่มจ้อง ล้วนอดพึงใจมิได้ ฯลฯ

ความงามผิวไฟด้านหลัง ความขลังขุมพลังมหายันต์กับรายละเอียด

ขนาดสวยงาม น่ารักน่าบูชา

 

วันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ตรงกับวันอังคาร แรม ๓ ค่ำ เดือน ๙ ปีมะเส็ง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

เรียน คุณWanwi

ได้รับพระแล้วครับ ขอบพระคุณครับ

 

***บุญ'วันแม่'..แผ่ไพศาล
สุดจักรวาล.....จดจารถึง
ขึงมหาสมุทร...ปักหมุดตรึง
ยากหยั่งซึ้ง.....ซึ่งพระคุณ!!!

ร่วมอนุโมทนาบุญวันนี้ ส่งแด่"คุณแม่" ทุกท่าน จงมีสุขภาพ พลานามัยแข็งแรง ลูกหลานเติบใหญ่ เป็นคนดีศรีสังคมให้ "คุณแม่" ชื่นใจ!

 

พระสมเด็จเนื้อหาล้ำค่าหายาก และยากจะสร้าง-เสกเช่นนี้ได้อีกแล้ว ปัจจุบัน โบราณสถานเช่น "ปราสาทหิน" ทุกแห่ง แม้นแต่เศษอิฐเก่าแค่เสี้ยวก็ห้ามเก็บ ห้ามนำออกไปเป็นที่ระลึก จะถือว่าขโมยสมบัติของชาติทันที

วัตถุมงคลที่สร้างขึ้นด้วยเนื้อหานับพันปีจากอิฐแลงเก่าผสมรุ่นนี้ ควรจัดเป็นรุ่นแรก รุ่นเดียว และ "รุ่นสุดท้าย" อย่าได้ไปคิดอุตริเที่ยวเก็บวัสดุจากโบราณสถานมาสร้างอีกเป็นขาด พลั้งพลาดถูกจับได้ "ตางตะริด ติดตะราง" หัวโต ยิ่งกว่าเสียค่าโง่เชียวนะ จะบอกไห่!

ขอบคุณและโมทนาคุณบุญ วันนี้ถือว่าวันดีศรีวัน "วันแม่" พร้อมกับพระสมเด็จล้ำค่าเดินทางเข้าบ้าน เป็นศิริมงคลยิ่งยวดหลายเด้ง โชคดี มีโชคลาภ ราบรื่น สมประสงค์ในสิ่งปรารถนาที่ดีงามทุกประการ

 

วันที่ ๑๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ตรงกับวันพุธ แรม ๔ ค่ำ เดือน ๙ ปีมะเส็ง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

ผ่านวันหยุดยาว กลับมาทำงานกันตามปกติ แต่เหตุการณ์บ้านเมืองเรื่องสงครามกับขะแมร์ ยังไม่ปกติ เพราะมันเล่นลอบวาง "กับระเบิด" จนทหารไทยขาขาดไปอีกนายทั้งที่อยู่ในเขตแดนเรา

ไม่เคยมีครั้งไหนในประวัติศาสตร์กรุงรัตนโกสินทร์ ที่ไอ้ขะแมร์ชาติชั่วกล้าสำแดงความเหิมเกริมถึงขนาดนี้ เป็นเพราะไทยมี "ไส้ศึก" มี "หนอน" มีไอ้ขายชาติพยายามทำโน่น นี่ นั่น เพื่อให้ไอ้ขะแมร์เป็นต่อทั้งด้านการเจรจา ด้านการต่างประเทศ

ยังดีที่ทหารไทยส่วนใหญ่ ไม่เอาด้วย เพียงแต่ปฏิบัติการหลายส่วนก็ต้องฟังไอ้ทรพี ทรยศชาติบงการ จึงทำอะไรไม่ถนัดมือ ทำอะไรดังใจหมายได้ไม่เต็มที่ ได้แต่กัดกลืนเลือดลงอก

แม่ทัพภาค 2 ใกล้เกษียณ ถือเป็นวาระ "เปลี่ยนม้ากลางศึก เปลี่ยนขุนศึกกลางสนามรบ" ก็ได้แต่ภาวนา "รองแม่ทัพ" ที่จะก้าวขึ้นมาแทน มีความสามารถรับศึก และเก่งกาจอาจหาญเหมือนคนเก่า

บ่นได้แค่นี้ เพราะมากไปส่วนใหญ่คนไทยก็รู้ดีรู้ซึ้งถึงเรื่องราวอยู่แล้ว ภาวนาอย่างเดียวให้ไอ้คนขายชาติ ทรยศชาติที่สุมหัวกันโจ่งแจ้งจงพินาศเร็ววันและเร็วพลัน...!

ร่วมอนุโมทนาบุญยามเช้า ส่งพลังสู่เทพ เทวา ผู้พิทักษ์รักษาแผ่นดิน ช่วยดลบันดาลคำอธิษฐานเป็นจริง อย่าช้าที!!!

 

"หลวงพ่อทรัพย์ วัดตลุก"
สีผึ้งมหาเสน่ห์-ชัยนาท
===============

สีผึ้งมหามงคล อุดม"มหาเสน่ห์" ปี 2520 หลวงพ่อทรัพย์ วัดตลุก ชัยนาท เป็นทั้ง "นามมงคล" ลาภผลล้นเหลือ

อ็อปชั่น สีผึ้งตลับนี้ เพียบพร้อมและแสนดี ชม "ภาพเล่าเรื่อง" ไม่เปลืองเวลา สามารถบูชาได้ในราคาไม่เดือดเนื้อร้อนใจ

=======500=======

ฟูล อ็อปชั่น "ตะกรุด 3 กษัตริย์-ปลาตะเพียนเงิน+ทอง-แม่นางกวัก-ไม้กาหลงหรือสาริกาหลงรัง"!

เนื้อสีผึ้งแห้งผาก ยุบลงตามอายุหุงผ่านมาเกือบครึ่งศตวรรษ ของแท้แลง่าย ไม่ใช่ของกลางเก่ากลางใหม่ที่ "สีผึ้ง" เต็มตลับ ไม่ยุบ ไม่ระเหิด ระเหย

ตลับมาตรฐานของยุคเก่าเก๋ากึ้กส์
ไม่มีของแบบนี้ให้เห็นสมัยปัจจุบัน

สีผึ้งมหาเสน่ห์ "นามมงคล" ชุดนี้ เคยนำให้สมาชิกร่วมบุญนานหลายปีมาแล้ว มอบตลับคลาสสิคหนึ่งเดียวให้ "สายมู" สายมหาเสน่ห์ไร้เทียมทาน นำไปลองใช้...

ใช้ดีก็ไม่ต้องบอกต่อ เพราะไม่มีตลับอื่นให้เห็นอีก!!!

 

"หมูมงคล-วัดอนงค์"
ยันต์แปดทิศพิชิตไพรี
===============

เอาใจ "สายมู" สายขลัง พลังมหาเสน่ห์ และพลังทำร้ายล้างอุปสรรค พิชิตไพรี ขยี้ขวากหนามอย่างต่อเนื่อง

"หมูมงคล" เนื้อทองเหลือง วัดอนงคาราม หรือ "วัดอนงค์" สืบทอดวิทยายุทธจาก "สมเด็จพระพุฒาจารย์นวม" และ "หลวงพ่อทับ วัดอนงค์" ความขลังเข้มข้นของวิชา เสริมดวง หนุนดวง ก้าวข้ามเสนียดจัญไร สำนักนี้ร้ายกาจมาก!!!

"หมูมงคล" ความหมายตรงตัวชัดเจน ให้ทำสิ่งใด ก็ "หมู หมู หมู" ราบรื่น พกติดตัวเป็นมหาเสน่ห์ ทำมาหากินคล่องตัวทุกด้าน สร้างปี 253กว่า เชิญชมความน่ารักและร่วมบุญไม่ยาก...

=======500=======

หมูทองเหลือง ไม่เปลืองค่าเลี้ยงดู มีแต่จะนำไปทำมาหากินเจริญรุ่งเรืองทุกเรื่อง หมู หมู หมู ผ่านอุปสรรคขวากหนามฉลุย

พกติดตัวกับพวงกุญแจหรือกล้องส่องพระและเครื่องรางชนิดอื่นอย่างผมตามภาพก็สบาย...

หมูตนนี้ติดกล้อง
นานเกินกว่า 30 ปี

ตนนี้ไม่คยผ่านการใช้ ยันต์โป้ยก่วย แปดทิศพิชิตไพรี กับ "หยิน-หยาง" สร้างสมดุลให้ชีวิตทั้งภายนอก-ภายในอาการ 32 ได้ครบทุกรูปแบบ สามารถอธิษฐานทำ "น้ำมนต์" ปรับสมดุลกายหยาบได้เป็นครั้งคราว

ขนาดพอดี น้ำหนักเหมาะ ทนทาน
ตนที่โชว์คู่กล้องพกเองเกิน 30 ปี
ยังไม่มีร่องรอยบุบสลายส่วนใด

 

ร่วมบุญครับ

 

ร่วมบุญครับ

 

วันที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ตรงกับวันศุกร์ แรม ๖ ค่ำ เดือน ๙ ปีมะเส็ง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

สีผึ้งชั้นยอด หลวงพ่อทรัพย์ วัดตลุก เมื่อคราวแรกที่นำให้ร่วมบุญ จำได้แม่นว่าน้องเสฯบูชาไปแล้วมอบให้ท่านผบ.ที่บ้านนำไปลองใช้แล้วได้ผลดีเยี่ยม

นี่เป็นตลับสุดท้ายที่ผมเก็บไว้ในตู้พระ ผ่านการสวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิ มาหลายสิบปี สีผึ้งแม้อยู่ในตลับกับสถานที่มิดชิด แต่ก็ "ระเหิด"ยุบลงตามกาลเวลา เปิดเจอก็เกรงว่า สีผึ้งชั้นดีจะไม่เหลือเชื้อหน่อเนื้อพลัง จึงนำออกให้สมาชิกไปใช้ตามความปรารถนาดีกว่า

โมทนาน้องเสฯ ขอจัดเดินทางวันจันทร์ วันนี้ม้าด่วนติดงานขาวดำญาติตจว.ครับ

 

อีกหนึ่งสายขลัง พลังที่ส่งแต่ผลดีไม่มีพิษภัย ไม่ทำใครเดือดร้อน ไม่สะท้อนเรื่องร้าย มีแต่ทำให้บังเกิดความราบรื่นผ่านพ้นอุปสรรคอย่างหมู! หมู!! หมู!!!

เคล็ดลับเล็กน้อยในการใช้เครื่องราง บางทีก็เหมือน "จิ๊กซอว์" ตัวสำคัญ ต่อแล้วลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ ผมใช้เองมาหลายสิบปี เห็นตนนี้อยู่ในกล่องเดียวกับสีผึ้ง ก็จัดไปด้วย แล้วก็แปลกที่ยังติดตามไปอยู่คู่ไม่พรากจากกัน

โมทนาคำรบสองแด่น้องเสฯ มอบ "หมูมงคลมหาลาภ" เดินทางพร้อมกับ "สีผึ้งมหาเสน่ห์" อุปเท่ห์เหลือร้าย วันจันทร์ครับ

 

บุญวันศุกร์ สุขเสมอ ดูอาการแล้วถนนเพิ่งชุ่มฉ่ำด้วยพระพิรุณทำให้อากาศที่ร้อนระอุรุนแรงมากๆช่วงนี้ผ่อนคลายลงได้บ้าง

ร่วมอนุโมทนาบุญวันศุกร์ สุขกายใจทุกวันเวลา ส่งพลังงานบุญสู่ชายแดน มอบทหารหาญกับชาวบ้านทุกท่านที่อาจจะต้องอพยพอีกรอบ ปลอดภัยทุกคน!

 

"อุลกมณี-สะเก็ดดาว"
ทนสิทธิ์จากฟากฟ้า!!!
===============

เรื่องที่มีหลักวิชาการปนอยู่บ้าง จะเขียนเองก็ใช่ที่ ขออนุญาตคัดลอกของหน่วยงานตรงตัวมาให้อ่านละกัน...




จะเห็นว่าในเรื่องวิทยาศาสตร์ ก็พิสูจน์ทราบกันจาก "เนื้อหา-ตัววัตถุ" แล้วสรุปมาอย่างนี้

แต่ในด้าน "คุณศาสตร์-วิทยาคุณ" และสิ่งเร้นลับเหนือโลกยึดถือกันมานานก่อนกำเนิดวิทยาศาสตร์นับพันๆปีแล้วว่า...

"อุลกมณี" คือ "สะเก็ดดาว" ทนสิทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดจากฟากฟ้า ของจริงมีคุณค่าเปี่ยมล้นมหิทธานุภาพไม่แพ้ "เหล็กไหล"!!!

โบราณกาลจัด "อุลกมณี" เป็นของดีที่สุดจากฟากฟ้าเหนือโลกมนุษย์ มันเดินทางท่องผ่านห้วงอวกาศในรูปอุกกาบาตขนาดใหญ่ อาจจะนานนับอสงไขย (หลายล้านปีแสง) กว่าจะทะลุทะลวงห้วงบรรยากาศโลกลงสู่พื้นพิภพ และความรุนแรงในการตก หลายส่วนแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆดังห่าฝน แหวกผืนปฐพีลงลึกได้ไม่น้อย

ถึงจะเป็นเศษหิน ดิน ทราย ที่กระจายขึ้นกลางอากาศเพราะโดนอุกกาบาตตกใส่ แล้วแข็งตัวกลายเป็น "อุลกมณี" ตามหลักวิชาการสมัยใหม่ก็เถอะ มันก็กระเด็นขึ้นสูงสุดขอบฟ้าก่อนจะแข็งตัวตกลงมาอีกครั้งเช่นกัน

เป็นการก่อกำเนิดหรือการเกิดที่มหัศจรรย์ เป็น "ของขวัญ" จากห้วงอวกาศอันล้ำลึกโดยแท้!!!

เมื่อผู้ทรงคุณวิเศษด้านมนตราคาถาและคุณไสย นำสิ่งเหล่านี้ไปประจุพลังปราณทั้ง "พลัง-โลกุตระ"ของอริยเจ้า...

หรือจักเป็น "พลัง-ฌานโลกียะ" ของผู้มีฤทธิ์แต่ยังติดข้องอยู่ในห้วงโลกีย์บางตัวก็ตาม...

"อุลกมณี" ย่อมกลายเป็น "ทนสิทธิ์ทรงฤทธิ์" ครบเครื่องสมบูรณ์ ทั้ง "พลังโลก-พลังจักรวาล" ทันที!!!

มักจะมีคำถามว่า เราจะดู "อุลกมณี" ของแท้อย่างไร?

ในเมื่อบางที "อุลกมณี" ก็ไม่ต่างจาก "สะเก็ดหิน-สะเก็ดกรวด"!?!

คำตอบก็อยู่ตามหลักวิทยาศาสตร์ด้านบนที่สามารถนำมาใช้พิจารณาได้เป็นเบื้องต้นสำหรับผู้มีสติปัญญาแยกแยะ ไม่หลงเชื่อนิยายนิทานมาบดบังปัญญา

ส่วน "อุลกมณี" ที่แปรสภาพไปเองตามธรรมชาติ หรือแปรสภาพด้วยน้ำมือคน...

อาทิ นำไปเจียระไนยเป็นวัตถุมงคล เป็นเครื่องรางของขลัง หรือเครื่องประดับ ก็ต้องเชื่อ "ที่มา" ของผู้ครอบครองเบื้องต้นประกอบกัน

วันศุกร์นี้ สุขเสมอ ก็ขอนำ "อุลกมณี" ที่เป็น "ของแท้-แลง่าย" กับของแปรสภาวะเองตามธรรมชาติ และแปรสภาพด้วยน้ำมือคนมาให้ชมและศึกษา ผนวกเรื่องราวน่าทึ่ง ซึ่งอาจไม่เคยอ่านเคยเห็นกันมาก่อน

เป็นความรู้เล็กๆ น้องๆ "เหล็กไหล" เผื่อมี "บุญสัมพันธ์" เจอะเจอเข้าโดยบังเอิญ จะได้ไม่ปล่อยผ่าน สามารถตัดสินใจได้...!


เริ่มด้วย "อุลกมณีจิ๋ว" เม็ดเล็กสุด เล็กกว่าเล็บปลายก้อย สภาพแปรเปลี่ยนไปเองตามธรรมชาติ เพราะแหวกอากาศผ่านการเผาไหม้ ทะลวงไปอยู่ใต้พื้นพิภพจนผิวราบเรียบ ดำสนิทดั่งเม็ดนิลกาฬ แต่แวววาว ประดุจ "เหล็กไหล" น้ำงามชนิดหนึ่ง

"อุลกมณี" เม็ดนี้ "นักขุดกรุ" มอบให้เมื่อเกือบ 50 ปีที่แล้ว เขาพบโดยบังเอิญในขณะที่กำลังใช้ "เกรียง" ค่อยๆเกลี่ยพื้นดินลงไปทีละขั้นอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ของโบราณที่อาจเป็นสมบัติล้ำค่าด้านล่างโดนกระทบเสียหาย

ทันใดนั้นก็มีเสียง "เปรี๊ยะ" เหมือนประกายสายฟ้าหรือไฟช็อต วิ่งผ่านตัวไปเบาๆ ทำเอาสะดุ้งโหยงสุดตัวทั้งทีมคิดว่า ฟ้ากำลังจะผ่า รีบหมอบคุดคู้กับพื้น ผ่านไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง ก็เงยหน้ามองไม่เห็นปรากฏการณ์ส่อแววอันตราย

รีบลุกขึ้นใช้เกรียงแซะดินอย่างระมัดระวัง เพราะมีความรู้สึกว่า ปลายเกรียงสะดุดกับวัตถุบางอย่าง น่าจะเป็นของมีค่าชิ้นใหญ่

ที่ไหนได้แงะออกมา เป็น "อุลกมณี" เม็ดจิ๋วนี่เอง ที่ทรงประสิทธิภาพไม่น่าเชื่อ แค่สัมผัสเกรียงเบาๆ สามารถส่งพลังออกมาทำเอาชาย 3 คนสะท้านขนหัวลุกไปทั้งหลุมที่กำลังขุด!!!

จิ๋วแจ๋วเจาะโลกตัวจริงเสียงจริง เทียบกับเหรียญสลึงเล็กที่สุดของประเทศ เหรียญเล็กสุดยังใหญ่กว่าเป็นสิบเท่า

"อุลกมณี" เม็ดนี้ ออกมาจากใต้ผืนพิภพด้วยรูปร่างดั้งเดิมเช่นนี้ ไม่เคยถูกนำไปแปรสภาพ สามารถนำไปทำ "หัวแหวน" สำหรับสุภาพสตรี แต่ผมก็เก็บไว้ในตู้เซฟนานจนลืม จะเอาไปทำตอนนี้ก็เกินวัยไปแล้ว

ประเดิมให้ชมพร้อม "เกร็ด" เรื่องเล่า เรื่องจริง ของจริง เป็นความรู้ ดูเพลินอ่านสนุกแล้ว ก็พักยกพักนิ้ว พักสายตาสักระยะ ยังมีให้ชมชนิด อึ้ง! ทึ่ง!! (ไม่)เสียว!!!... อีกพอสมควร!!!

(((ยังมีต่อ)))

 

สวัสดีคุณอาวันวิ และสมาชิกทุกๆท่านครับ
ขออนุญาตส่งคลิปรวมตอน
ประลองยุทธ..อสูรกายกองทัพปีศาจ!(คลิปเดียวจบ l ฉบับสมบูรณ์)

ขอบพระคุณมากครับผม

 

ผมโอนเงินทั้ง 2 รายการให้คุณน้ำฝนเรียบร้อยแล้วครับ ส่วนเกินขอร่วมบุญอื่นๆกับท่านอา Wanwi ด้วยครับ

 

"อุลกมณี" (ต่อ)
~~~~~~~~~~
2.

เซ็คชั่นที่ 2 ของ "อุลกมณี" สะเก็ดดาวแห่งฟากฟ้า นำข้อมูลเทหวัตถุอัศจรรย์ ซึ่งได้รับการประดิษฐ์เป็นเครื่องประดับกับเครื่องรางของขลังเรียบร้อย

ใช้วิธี "ภาพเล่าเรื่อง" เพื่อการอ่านสบายๆ ไม่ลายตากับตัวอักษร


เม็ดเล็กในตลับ ผ่านการเจียระไนยเป็นเม็ดพลอย ส่วนชิ้นใหญ่เจียร์เป็นกระบอง สำหรับกระบองนี้เคยนำภาพ+เรื่องให้ชมมาแล้ว

ทั้ง 2 ชิ้น ผ่านพิธีเพิ่มพูนอาถรรพ์เวทย์ จาก "พระอาจารย์วร วัดสุทัศน์ฯ" หนึ่งในจอมขมังเวทย์แห่งตักศิลาเสาชิงช้า เป็นจอมอาคมร่วมยุคสมัยกับผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง พระอาจารย์ น.หนู

ส่วนตัวท่านอาจารย์วร เป็นผู้ที่ชอบเก็บตัว ชอบทำงานเบื้องหลัง เกลียดการโชว์ตัวและออกหน้า ไม่ยอมแม้แต่จะให้สื่อถ่ายรูป ขนาดลูกศิษย์บางคนเป็นเจ้าของโรงพิมพ์ใหญ่โตมีหนังสือรายสัปดาห์ดังๆขายเป็นแสนฉบับในยุคนั้น จะเอาเรื่องไปเขียน เพื่อสนองพระคุณ อาจารย์วรยังไม่ยอมให้ทำ....ผิดกับบางท่าน ที่เห็นสื่อไม่ได้

ชื่อเสียงอาจารย์วรจึงเงียบเชียบอยู่ในหมู่ผู้รู้และเหล่าศิษย์ เป็นจอมยุทธเร้นกายกลางกรุง ยอดพยัคฆ์ในดงพยัคฆ์ เป็น "ของจริงที่นิ่งเป็นใบ้" ดั่งคติโบราณ...

การหล่อพระกริ่งวัดสุทัศน์ฯ รุ่นดังรุ่นสำคัญ เนื้อหา สูตรมวลสาร วิธีเทผสมให้ถูกวิธี กระทั่งพิธีกรรมตามฤกษ์ยามที่ต้องใช้วิชาขั้นสูงในการช่วยเหลือเหล่าพระอาจารย์ในผ้าเหลือง ล้วนมี "อาจารย์วร" อยู่ข้างหลังทั้งสิ้น!

กระบองอสนีบาต เนื้อแก้วแวววาวตามสูตร "อุลกมณี" ที่ผ่านการเจียระไนย ก้อนนี้อาจารย์วรได้จากลูกศิษย์ทำงานด้านธรณีวิทยานำมาให้ ได้มอบให้ศิษย์ไปตัดแบ่งแล้วทำเป็นกระบองโดยเจตนาให้เหมือน "ตะกรุด" สามารถใส่หลอด พกพาเป็นตะกรุดมีคุณสมบัติเช่นเครื่องรางของขลังทุกประการ

และคุณสมบัติพิเศษเหนือที่สุดก็คือ การเป็น "ทนสิทธิ์-พลังงานจักรวาล" ที่คนทั่วไป คนธรรมดา แม้กระทั่งพระสงฆ์ระดับเกจิชั้นยอด ก็ไม่สามารถรังสรรค์ขึ้นได้ เป็นธรรมชาติที่พูดเข้าใจง่ายว่า...ฟ้าประทาน!!!

กระบองอุกกาบาต จึงเป็น "ของดีทีเด็ด" ที่ศิษย์อาจารย์วร วัดสุทัศน์ฯ ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าคหบดีมีชื่อเสียง นักเรียนนอกหลายท่าน ได้รับติดตัว ขนาดใหญ่-เล็ก ต่างกันไป รวมแล้ว สร้างได้ไม่เกิน 10 ชิ้น !

ส่วนเม็ดเล็กที่เจียระไนยออกมาเป็นเม็ดพลอยนั้น ก็นำเศษที่แตกจากก้อนใหญ่ทำอีกที ไม่ปล่อยให้เสียของ!

3 อุลกมณี 3 ขนาด 3 รูปแบบ ทั้งสภาวะดั้งเดิม กับการแปรสภาพเรียบร้อยแล้ว

อุลกมณีเจียระไนยเป็นเม็ดพลอย ใหญ่พอควร ทำเป็นหัวแหวนได้สบาย ใส่ถุงพกติดตัวก็สะดวก ผ่านพิธีกรรมบรรจุอาถรรพ์เวทย์ ปลุกพลังพิเศษผสมกับพลังงานทางโลกเรียบร้อย

ทนสิทธิ์อาถรรพ์เหล่านี้ เปรียบไปก็เป็นของ "เฉพาะตัว" ซึ่งมิอาจมีหนังสือยืนยันรับรองได้ว่าเป็นของแท้ ของจริงหรือไม่?

เฉกเช่น "ตะกรุดเก่า-โบราณ" ที่ต้องสันนิษฐานเอาจากความเก่า เชือกถัก ตะกั่ว การม้วน หรือกระทั่งสุดท้ายต้องคลี่ดูลายมือจาร เช่นเดียวกับเครื่องรางของขลังลึกลับอีกหลายสิบประเภท!!!

นอกจากผู้ที่ได้รับกับมืออาจารย์/ ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ / ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน และได้ร่วมพิธีหรือได้รับมอบมาจากบุคคลที่กล่าวข้างต้น และเป็นคนมีเกียรติเชื่อถือได้ จึงสามารถรู้และมั่นใจได้ว่า...

ของแท้ ของดี ของจริงยิ่งกว่าแช่แป้งแน่นอน..!

"อุลกมณี" ที่นำออกมาให้เห็นเป็นความรู้ ดูเพลินนี้ ก็เป็นเช่นนั้น!!!

(((ยังมีต่อ)))